สำหรับการจัดงานรัฐพิธีในครั้งนี้ จัดขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๔๘ โดย กำหนดให้วันที่ ๒๕ เมษายนของทุกปี ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสวรรคตของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ให้ส่วนราชการทั้งส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค ประกอบพิธีวางพานพุ่มถวายราชสักการะพร้อมกันทั่วประเทศ เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระเกียรติคุณ ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชที่ทรงพระปรีชาสามารถ กล้าหาญ เด็ดเดี่ยว สร้างความเป็นเอกราชให้แก่ชาติไทย สมเด็จพระนเรศวรมหาราช หรือสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ ๒ มีพระนามเดิมว่า พระองค์ดำ ทรงเป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระมหาธรรมราชา และพระวิสุทธิกษัตริย์ (พระราชธิดาของสมเด็จพระศรีสุริโยทัย และสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ) เสด็จพระราชสมภพเมื่อ พ.ศ.๒๐๙๘ ที่พระราชวังจันทน์ เมืองพิษณุโลก โดยมีพระเชษฐภคินี คือ พระสุพรรณกัลยา และพระอนุชาคือ สมเด็จพระเอกาทศรถ (องค์ขาว) และทรงเป็นพระราชนัดดาของสมเด็จพระศรีสุริโยทัย พระองค์เสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อวันที่ ๒๙ กรกฎาคม พ.ศ.๒๑๓๓ โดยทรงครองสิริราชสมบัติ ๑๕ ปี จึงเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ ๒๕ เมษายน พ.ศ.๒๑๔๘ รวมพระชนมพรรษา ๕๐ พรรษา ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเป็นคุณประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองด้วยการทรงอุทิศพระวรกายทำราชการสงครามเกือบตลอดรัชสมัย พระบรมเดชานุภาพอันยิ่งใหญ่ของพระองค์นั้นแผ่ไพศาล ทำให้อริราชศัตรูเกิดความยำเกรงในอำนาจ ส่งผลให้แผ่นดินไทยร่มเย็นเป็นสุขว่างจากการศึกสงครามเป็นเวลาถึง ๑๐๐ ปีเศษ
แสดงความคิดเห็น